วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น
"เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เรียกว่า "ปุริมพรรษา"
ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า "ปัจฉิมพรรษา" เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า "สัตตาหะ" หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด
สำหรับข้อยกเว้นให้ภิกษุจำพรรษาที่อื่นได้ โดยไม่ถือเป็นการขาดพรรษา เว้นแต่เกิน 7 วัน ได้แก่
1.การไปรักษาพยาบาลภิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย
2.การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิให้สึกได้ 3.การไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น การไปหาอุปกรณ์ มาซ่อมกุฏิที่ชำรุด
4.หากทายกนิมนต์ไปทำบุญ ก็ไปฉลองศรัทธาในการบำเพ็ญกุศลของเขาได้
นอกจากนี้หากระหว่างเดินทางตรงกับวันหยุดเข้าพรรษาพอดี พระภิกษุสงฆ์เข้ามาทันในหมู่บ้านหรือในเมืองก็พอจะหาที่พักพิงได้ตามสมควร แต่ถ้ามาไม่ทันก็ต้องพึ่งโคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม ชาวบ้านเห็นพระได้รับความลำบากเช่นนี้ จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน รวมกันหลาย ๆ องค์ ที่พักดังกล่าวนี้เรียกว่า "วิหาร" แปลว่า ที่อยู่สงฆ์ เมื่อหมดแล้ว พระสงฆ์ท่านออกจาริกตามกิจของท่านครั้ง ถึงหน้าฝนใหม่ท่านก็กลับมาพักอีก เพราะสะดวกดี แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็เลือกหาสถานที่สงบเงียบไม่ห่างไกลจากชุมชนนัก สร้างที่พัก เรียกว่า "อาราม" ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ดังเช่นปัจจุบันนี้
ทั้งนี้ โดยปกติเครื่องใช้สอยของพระตามพุทธานุญาตให้มีประจำตัวนั้น มีเพียงอัฏฐบริขาร อันได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ เข็ม บาตร รัดประคด หม้อกรองน้ำ และมีดโกน และกว่าพระท่านจะหาที่พักแรมได้ บางทีก็ถูกฝนต้นฤดูเปียกปอนมา ชาวบ้านที่ใจบุญจึงถวายผ้าอาบน้ำฝนสำหรับให้ท่านได้ผลัดเปลี่ยน และถวายของจำเป็นแก่กิจประจำวันของท่านเป็นพิเศษในเข้าพรรษา นับเป็นเหตุให้มีประเพณีทำบุญเนื่องในวันนี้สืบมา...
อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของพระภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำบุญรักษาศีล และชำระจิตใจให้ผ่องใส ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็จะไปช่วยพระทำความสะอาดเสนาสนะ ซ่อมแซมกุฏิวิหารและอื่น ๆ พอถึงวันเข้าพรรษาก็จะไปร่วมทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องสักการะบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น พร้อมฟังเทศน์ ฟังธรรม และรักษาอุโบสถศีลกันที่วัด บางคนอาจตั้งใจงดเว้นอบายมุขต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษ เช่น งดเสพสุรา งดฆ่าสัตว์ เป็นต้น อนึ่ง บิดามารดามักจะจัดพิธีอุปสมบทให้บุตรหลานของตน โดยถือกันว่าการเข้าบวชเรียนและอยู่จำพรรษาในระหว่างนี้จะได้รับอานิสงส์อย่างสูง
การทำบุญถวายพระหลัก ๆ ที่ได้กุศลแรง คือ
๒. การเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นกับการอยู่จำ
พรรษา(ถวายเป็นสังฆทาน)
๓. ผ้าไตรจีวร ๑ เมตร ๙๐ เซ็นติเมตร หรือพระที่
ท่านมีองค์ใหญ่หน่อยก็ ๒ เมตรคูณ ๓ เมตร
๔. ซื้อปลาในตลาดที่กำลังโดนฆ่า
อโหสิกรรมด้วยนะคะ)
๖. เทียนเข้าพรรษา ๑ คู่
๗. ธูป สัก ๑ ห่อ
บรรยากาศการ
ของการทำบุญในหลายๆ วัดของ จ.สุรินทร์ เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะที่วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประชาชน พุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ทั้งเด็ก วัยรุ่นหนุ่มสาว วัยทำงาน ที่ได้หยุดงาน และเดินทางกลับ จ.สุรินทร์ บ้านเกิด เยี่ยมครอบครัว ได้พาครอบครัว และผู้สูงอายุ ต่างทยอยพากันเดินทางกราบไหว้สักการะขอพรจากพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในโบสถ์วัดบูรพาราม ไหว้อัฐิธาตุ หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระเกจิอาจาย์ชื่อดังสายกรรมฐาน
นอกจากนี้ ทางวัดยังจัดให้มีกิจกรรมทำบุญรดน้ำมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ถวายสังฆทาน ตักบาตรพระประจำวันเกิด และทอดผ้าป่า 12 นักษัตร ประจำปีเกิด รวมทั้งทำบุญปล่อยนก ซึ่งต่างได้รับความสนใจจากประชาชนที่ต่างพาครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และลูกหลาน มาร่วมทำบุญ จนภายในวัดดูคับแคบไปถนัดตา
ของการทำบุญในหลายๆ วัดของ จ.สุรินทร์ เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะที่วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประชาชน พุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ทั้งเด็ก วัยรุ่นหนุ่มสาว วัยทำงาน ที่ได้หยุดงาน และเดินทางกลับ จ.สุรินทร์ บ้านเกิด เยี่ยมครอบครัว ได้พาครอบครัว และผู้สูงอายุ ต่างทยอยพากันเดินทางกราบไหว้สักการะขอพรจากพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในโบสถ์วัดบูรพาราม ไหว้อัฐิธาตุ หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระเกจิอาจาย์ชื่อดังสายกรรมฐาน
นอกจากนี้ ทางวัดยังจัดให้มีกิจกรรมทำบุญรดน้ำมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ถวายสังฆทาน ตักบาตรพระประจำวันเกิด และทอดผ้าป่า 12 นักษัตร ประจำปีเกิด รวมทั้งทำบุญปล่อยนก ซึ่งต่างได้รับความสนใจจากประชาชนที่ต่างพาครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และลูกหลาน มาร่วมทำบุญ จนภายในวัดดูคับแคบไปถนัดตา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น